วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คุณรู้จักมั๊ย" เฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น "


ยาค็อบ ลุดวิก เฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น-บาร์โธลดี (Jakob Ludwig Felix Mendelssohn-Bartholdy) เป็นที่รู้จักกันในชื่อ เฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น (3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1809 - 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1847) เป็นนักเปียโน คีตกวี และผู้อำนวยเพลงชาวเยอรมัน อยู่ในยุคโรแมนติกตอนต้น มีผลงานประพันธ์ทั้งซิมโฟนี คอนแซร์โต ออราทอริโอ และเชมเบอร์มิวสิก
เฟลิกซ์ เมนเดลโซห์น เกิดที่
ฮัมบูร์ก ในครอบครัวชาวยิว เป็นบุตรของอับราฮัม เมนเดลโซห์น นายธนาคารซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนศาสนาเป็นคาธอลิก ต่อมาครอบครัวได้ย้ายมาอาศัยที่เบอร์ลิน
เฟลิกซ์ ได้รับการฝึกฝนให้เล่นเปียโนจากมารดา ป้า และพี่สาวชื่อ แฟนนี่ เมนเดลโซห์น ซึ่งเป็นนักดนตรีสมัครเล่น และได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก เช่นเดียวกับ
โมซาร์ท เขาได้รับการฝึกฝนการประพันธ์เพลง ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1817 เมื่ออายุเพียง 9 ปี และได้เริ่มแสดงคอนเสิร์ตตั้งแต่ปีนั้น ต่อมาเขาได้ศึกษาต่อด้านปรัชญา สุนทรียศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภูมิศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเบอร์ลิน
เมนเดลโซห์น เป็นศิลปินทางดนตรีและประพันธ์เพลงเพียงไม่กี่คนที่มีฐานะร่ำรวย แตกต่างจากศิลปินที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่ ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้น
ผลงานที่มีชื่อเสียงของเมนเดลโซห์น คือ
ไวโอลินคอนแซร์โต ในบันไดเสียง อี ไมเนอร์ ที่ประพันธ์ขึ้นในปี ค.ศ. 1844

ไวโอลิน แพงที่สุดในโลก !!!


Lady Tennant เป็นไวโอลิน ที่สร้างโดย Antonio Stradivari และได้มีการประมูลโดยสถาบัน Christie ไปด้วยราคา 71,120,000 บาท ( 2,032,000 เหรียญสหรัฐ ) ผู้ประมูลได้ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ได้ให้นักไวโลลิน นามว่า Yang Liu ยืมใช้อย่างไม่มีกำหนด โดย Yang Liu กล่าวว่าเสียงของ Lady Tennant นั้นน้ำเสียงที่โปร่งและกังวาน เสียงใหญ่แต่ไม่กระด้าง Liu ยังกล่าวต่อไปว่า น้ำเสียงของมันคล้ายกับนักร้องที่เก่งๆ ดูสบายๆ แต่มีความหนักแน่นอยู่ในเนื้อเสียง

ประวัติ ของ Lady Tennant
History of Lady Tennant ตามประวัติที่มีการบันทึกไว้กล่าวว่าผู้ที่เป็นเจ้าของ ไวโอลินตัวนี้ คนแรกๆ คือ Charles Philippe Lafont นักไวโอลินร่วมสมัยเดียวกับ Paganini ต่อมาในปี 1900 ไวโอลินตัวนี้ถูกขายให้กับนักอุตสาหกรรมและนักการเงินชาวสก็อต Sir. Charles Tennant เพื่อมอบให้กับภรรยาของท่านและนั้นก็เป็นที่มาของชื่อ Lady Tennant จากการทดสอบด้วยกระบวนการ Dendrochronology เป็นที่ยืนยันว่าวงปีในเนื้อไม้นั้นตรงกับไวโอลินตัวอื่นๆ ที่สร้างโดย Stradivari

รู้จักกันมั๊ย ! " โมเคเล เอ็มเบ็มบี "


โมเคเล เอ็มเบ็มบี (Mokèlé-mbèmbé) ชื่อเรียกของสัตว์ลึกลับขนาดใหญ่ที่พบในหนองน้ำหรือทะเลสาบของทวีปแอฟริกาตอนกลาง ในประเทศสาธารณรัฐคองโก, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, แคเมอรูนและแซมเบีย ที่ ๆ มีแม่น้ำคองโกไหลผ่าน มีรูปร่างคล้ายไดโนเสาร์จำพวกซอโรพอด เช่น บราคิโอซอรัส (Brachiosaurus) หรือ บรอนโตซอรัส (Brontosaurus) โดยชื่อนี้เป็นภาษาลิงกาลามีความหมายว่า ผู้เดียวที่หยุดการไหลของแม่น้ำได้ (one who stops the flow of rivers)
โมเคเล เอ็มเบ็มบี เป็นสัตว์ที่อยู่ใน
ตำนานเล่าขานของชนเผ่าพื้นเมือง เช่น ปิ๊กมี่ ว่าเป็นสัตว์ดุร้าย มักทำร้ายคนหรือสัตว์ที่เข้าใกล้ตัว โดยจะฆ่าให้ถึงตายแต่จะไม่กิน มีรายการการพบเห็นอย่างเป็นทางการครั้งแรกใน ค.ศ. 1766 โดยบาทหลวงที่เข้าไปแผ่ศาสนาในแคเมอรูนชื่อ Lievain Proyart จากนั้นก็มีรายงานการพบเห็นอีกครั้งต่อมาในปี ค.ศ. 1909 โดยนายPaul Gratz ได้บันทึกว่าเขาพบ โมเคลเล เอ็มเบ็มบี ในขณะที่มันว่ายน้ำอยู่ในบึงอย่างสบายอารมณ์ ใกล้กับทะเลสาบ Bangweulu ของประเทศแซมเบีย และเรียกชื่อมันว่า เอ็นซังกา (Nsanga)
จากนั้นก็มีการอ้างว่าพบเห็นอีกหลายครั้ง โดยนักสำรวจหรือนักผจญภัย
ชาวตะวันตกในอีกหลายปีต่อมา จนกระทั่งในยุค'90 มีปฏิบัติการตามล่าอย่างจริงจังถึง 2 ครั้งใหญ่ รวมทั้งมีการบันทึกภาพได้ด้วยในระยะไกล โดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ใน ค.ศ. 1988 และพบสิ่งที่คล้ายรอยเท้า แต่ก็ยังไม่มีใครพบหลักฐานหรือสิ่งที่ยืนยันได้จะ ๆ จริง ๆ แต่พอสรุปรูปร่างและขนาดของโมเคลเล เอ็มเบ็มบี ได้ว่า มีความยาวลำตัว 5-10 เมตร คอยาว 1.6-3.3 เมตร หางยาว 1.6-3.3 เมตร มีผิวสีน้ำตาลแดง ไม่มีเกล็ด กินพืช 2 ชนิดเป็นอาหาร การพบเห็นครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ค.ศ. 2000 ในประเทศแคเมอรูน โดยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแคเมอรูน 2 คน กระนั้นชนชาวพื้นเมืองก็กล่าวว่า ในอดีตเคยมีผู้ได้ทานเนื้อมันด้วยแต่ก็นานมาแล้ว จนบุคคลนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว ในความคิดของชาวพื้นเมืองคาดว่า โมเคลเล เอ็มเบ็นบีอาจสูญพันธุ์ไปแล้วก็เป็นได้